Page 12 - ที่ละลึกการบรรพชาอุปสมบท ปี 2562
P. 12
ม
มูลนิธิพระพุทมิ่งมงคล ศรัทธา ๔๕ูลนิธิพระพุทมิ่งมงคล ศรัทธา ๔๕ ๑๑ ๑๑
คำอนุโมทนา
การบวชเรียนนั้นมี ๓ แบบ คือ ๑ ปริยัติ หมายถึง ศึกษาพระธรรมวินัย
ถาบวชนานก็เรียนนักธรรมตรี โท เอก เรียนบาลีประโยค ๑,๒,๓ ถึงเปรียญ
๙ เมื่อเรียนปริยัติแลวก็เรียนปฏิบัติ เมื่อปฏิบัติมีความชำนาญ ความสุขก็
เกิดขึ้น เกิดจากไมมีความโลภ โกรธ หลงอยูในใจ ความสุขอยางนี้เมื่อถึง
มรรคถึงผลก็เรียกวา ปฏิเวธ ทุกคนเมื่อบวชแลวควรแสวงหาเรื่องความ
พนทุกข ละทิ้งสิ่งไมดี
พระพุทธศาสนาเนนใหเรามีศีลหาประการ เณรสึกไปแลวก็ตอง
มีศีลหา โยมก็ตองมีศีลหา แมวาเณรมาบวชไมถึงเดือน แตก็นับวาไดเขา
มาในเรียนพระพุทธศาสนาพอสมควร โดยเฉพาะอยางยิ่งปฏิปทาของการ
บวช เมื่อสึกแลวก็ตองระมัดระวัง มีสติ โดยอาศัยหลักทั้งสามที่กลาวแลวนี้
แหละ คือ เรียนปริยัติ แลวนำไปปฏิบัติ จนเกิดผลเปนปฏิเวธหลุดพน
หลุดพนจากกิเลส คือ โลภ โกรธ หลง จากความเห็นแกตัว
จะเห็นไดวาโลกทุกวันนี้ไมคอยนาอยู เอะอะอะไรก็ใชความรุนแรง
กัน เพราะเราขาดคุณธรรม เพราะเราไมไดปฏิบัติ จึงเกิดปญหากับเยาวชน
ที่สำคัญคือปญหายาเสพติด มีมากในหลายจังหวัด ซึ่งภูเก็ตเราก็มี
สามเณรทุกรูปตองรูจักบาปรูจักบุญ เรื่องคุณเรื่องโทษ เรื่องใดที่ไมดีเรา
อยาไปทำ ใหนำสิ่งดีไปปฏิบัติ จะเกิดผลดีตอการเลาเรียนดวย เพื่อไดนำ
ไปใชประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเลี้ยงพอแมตอไป
ขอใหนำความรูที่ไดเรียนมายี่สิบวันนี้ไปปฏิบัติ ใบเกียรติบัตรเล็กๆที่
จะมอบใหวันนี้มีคามาก ทำยาก เปนเครื่องเตือนใจใหเราปฏิบัติตนเปน
คนดี มีเครื่องหมายตรารับรอง มีผูเกี่ยวของไดแกวัฒนธรรมจังหวัด
เทศบาล มีโยมสุพรเปนหลักใหญในการบวชการอยูอาศัย สมัยพุทธกาล
เมื่อพระพุทธองคจะจาริกไปสถานที่ใด ถามีความยากลำบากก็จะอาศัย