Page 37 - วารสารแสงธรรม เล่ม 10
P. 37
36 แสงพระธรรม กรกฎาคม 2564 ถึง มิถุนายน 2565 The Light of Dharma July 2021 – June 2022 37
ื
ี
�
ช่อบ้านนามเมืองในภูเก็จ โดย สภาวัฒนธรรม นักประวัติศาสตร์ภูเก็ตส�ารวจพบแก่นไม้ผุพังปัก ศาลหลักเมืองน้สารวจพบราวทศวรรษ
�
จังหวัดภูเก็ต ปี 2562 หน้า 298 เรียกกว่า ศาล ดินอยู่เมื่อปี 2519 2490 (โดยศึกษาธิการอาเภอถลางรายงานไปยัง
็
�
ี
ู
้
ึ
หลักเมืองหาดเลพัง) ตั้งอยู่บริเวณบ้านชายทะเล เป็นไปได้หรือไม่ว่า สองเสาไม้เก่าแก่ดัง นายอาเภอถลาง) ผ้เขยนเหนว่าน่าจะสร้างขน
ี
ื
ี
หาดบางเทา ต�าบลเชิงทะเล อ�าเภอถลาง โดย กล่าวข้างต้นน้เป็นเสาที่สร้างขึ้นเพ่อเป็น หลังจากมีพระราชโองการในหลวงรัชกาลท่ 3
ึ
ั
ิ
้
์
่
่
ื
6
�
ั
ั
ึ
ิ
นกประวตศาสตรทองถน สารวจพบเมอปี 2524 สัญลักษณ์อย่างใดอย่างหน่งของชุมชนบริเวณน้น ให้ฟื้นเมืองถลาง(เพื่อฟื้นการค้าแร่ดีบุกซ่งเป็น
ิ
ั
เป็นเสาไม้เก่าแก่สูงราว 2.5 เมตร เส้นผ่า เท่าน้น ไม่ใช่เสาหลักของท้องถ่นในระดับเมือง สินค้าส่งออกของสยามมานานแล้ว)หลังจากพม่า
ี
�
ื
ึ
ี
ศูนย์กลางราว 40 เซนติเมตร ปักอยู่บนเนินดิน โดยเสาหลักท่หาดเลพังอาจทาข้นเพ่อให้เรือ บุกมาท�าความเสยหายใหญ่หลวงในปี 2352
้
ี
�
ื
ึ
ื
ี
ทรายใกล้ชายทะเลบริเวณท่บูรณะข้นเป็นศาลใน สินค้าท่ผ่านเข้ามา(เพ่อพักหลบลม หรือหานาจืด โดยเม่อพระยาถลาง(เจิม) ขุนนางท่ถูกส่งมา
ี
ี
ี
ิ
�
ปัจจุบัน ราวปี 2524 หรือแลกเปล่ยนสินค้า)รู้ว่าบริเวณตรงน้มีชุมชน ประจาท้องถ่นผู้รับพระราชโองการ ได้เลือกทาเล
�
ื
หรือเพ่อประกาศเขตครอบครอง ท่เหมาะสมต่อการเร่มฟื้นฟูและการค้าแร่ส่งออก
ี
ิ
�
ี
ี
บริเวณน้ท่อยู่ภายใต้ผู้นาชุมชนใน ทางทะเลสร้างเมืองถลางข้นมาใหม่ตรงบริเวณน ้ ี
ึ
ี
ท้องท่ หรือแสดงสิทธ์ร่วมกันของ ราวปี 2367 เรียกว่า เมืองใหม่ แล้วคงจะสร้าง
ิ
ั
ั
ท้งชุมชนน้น(ให้ชุมชนอ่นทราบ) ศาลหลกเมืองขนใกล้จวนทพกของท่านด้วย
ื
ั
ึ
้
ั
ี
่
และมีมาก่อนท่ภูเก็ตจะพัฒนาข้น ท้งน้ เข้าใจว่าเพ่อให้ชาวบ้านชาวเมืองท่เคย
ึ
ี
ี
ี
ั
ื
เป็นเมืองรวมศูนย์ในสมัยรัชกาล 5 กระจัดกระจายออกไปหลังศึกพม่าปี 2352 ม่นใจ
ั
ซ่งเกิดระบบมณฑลเทศาภิบาล ลด และอพยพย้ายกลับเข้ามาเพ่มเติม รวมท้งเพ่อ
ึ
ิ
ื
ั
ึ
�
ฐานะเมืองถลางลงเป็นอาเภอข้น สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ครั้งสํารวจพบเสาหลักเก่าแก่ที่ ให้พ่อค้าสาเภาต่างชาติท่เห็นเสาสัญลักษณ์น ้ ี
�
ี
ื
ั
ี
กับเมืองภูเก็ต ท้งน้ เช่อว่าเสาไม้ท้ง บริเวณหาดเลพังเมื่อปี 2524 แล้ววางใจกลับเข้ามาติดต่อกันใหม่ โดยอาจเป็น
ั
สองมีอายุเก่ากว่าเสาหลักเมืองอีก ไปได้ด้วยว่าพระยาถลาง(เจิม)เลือกสร้างท่พานัก
ี
�
2 แห่งที่จะกล่าวต่อไป ข้นในบริเวณชุมชนตรงน้เน่องจากอยูไม่ไกล
ื
ี
ึ
ชองแคบปากพระทางเหนอของเกาะซงชาวถลาง
ึ
ื
่
่
ศาลหลักเมืองถลางป่าสัก พวกท่อพยพหนีภัยพม่าไปยังฝั่งพังงา(ซึ่งท่านเอง
ี
�
�
เคยเป็นยกกระบัตรกากับราชการประจาที่
่
ั
ื
ื
2.ศาลหลักเมืองถลางป่าสัก-แม่สร้อยแก้ว 3.ศาลหลกเมองภูเก็ตเมืองใหม่(คืออีกชอ ตะก่วทุ่ง พังงามาก่อนหน้าน้ คร้งมีตาแหน่ง
ั
ั
�
ี
ึ
(คือช่อตามป้ายติดหน้าศาล แต่ช่อท่ระบุใน หน่งตามประกาศโครงการบูรณะและยกฐานะ พระวิเชียรภักดีดูแลชาวถลางท่อพยพไป ซ่ง
ื
ื
ี
ึ
ี
ื
�
7
หนังสือ ทําเนียบแหล่งประวัติศาสตร์ถลาง โดย เป็นศาลหลักเมืองประจาจังหวัดเม่อปี 2556 ) สมัยน้นเรียกว่า กราภูงา) สามารถข้ามกลับมาได้
ั
ิ
ี
ี
ส�านักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต ปี 2558 เป็นสถานท่เดียวกับท่เกร่นในย่อหน้าแรกของ ไม่ยาก ทงยงอย่ตดกบเส้นทางน�าหลายสาย
ั
ั
ู
ิ
้
ั
้
ิ
�
หน้า 29 เรียกว่า หลักเมืองถลางป่าสัก และใน บทความ กาลังบูรณะใกล้จะเสร็จส้น และ ได้แก่ คลองบ้านยุน คลองบางขนุน คลองเมือง
�
ี
ื
�
หนังสือ ช่อบ้านนามเมืองในภูเก็จ โดย สภา ก�าหนดให้เป็นศาลหลักเมืองประจาจังหวัดภูเก็ต ใหม่ คลองบางระกา และใกล้ท่าเรือท่จะไปยัง
ึ
ึ
ั
่
วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต ปี 2562 หน้า 304 เรียก ซงแม้มีบนทกประวัติการสร้างอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่ เกาะยาวท่บ้านท่ามะพร้าวทางทิศตะวันออก
ี
ี
ว่า ศาลหลักเมืองถลางป่าสัก เช่นเดียวกับป้าย เอกสารที่เป็นทางการ และยังมีความเห็นไม่ตรง อีกด้วย เหมาะท่จะใช้ในการขนส่งสินค้าเข้าออก
ั
ี
ิ
หน้าศาลฯ) ต้งอยู่ท่บ้านป่าสัก ตาบลเชิงทะเล กันอยู่ จึงต้องวิเคราะห์จากหลักฐานช้นหลังๆ ทะเลได้สะดวก และเม่อเมืองต้งใหม่แห่งน้เร่ม
ี
ั
ั
�
ื
ั
อ�าเภอถลาง โดยสมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ ใคร่สรุปดังนี้ เข้ารูปเข้ารอย มีการแต่งต้งเจ้าเมืองปกครอง
ศาลหลักเมืองภูเก็ตเมืองใหม่(ก่อนการบูรณะหลังสุด)